การก่อจลาจลของขนมปังในปี 1738: การขาดแคลนอาหารและความไม่พอใจต่อผู้ว่าราชการ

blog 2024-12-24 0Browse 0
การก่อจลาจลของขนมปังในปี 1738: การขาดแคลนอาหารและความไม่พอใจต่อผู้ว่าราชการ

หากย้อนกลับไปในศตวรรษที่ 18 ของอิตาลี เราจะพบกับภาพวาดที่น่าสนใจของชีวิตในยุคนั้น เป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงทั้งทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง แม้ว่าอิตาลีจะถูกแบ่งแยกออกเป็นรัฐต่างๆ แต่ก็ยังคงมีประเด็นร่วมกันที่เชื่อมโยงพวกเขาเข้าด้วยกัน หนึ่งในนั้นคือความขัดแย้งระหว่างชนชั้นสูงและประชาชน การก่อจลาจลของขนมปังในปี 1738 ที่เมืองเนเปิลส์ เป็นตัวอย่างชัดเจนของความตึงเครียดนี้

เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นจากความไม่พอใจต่อการขาดแคลนอาหารอย่างรุนแรง ประชาชนชาวเนเปิลส์ส่วนใหญ่เป็นคนยากจนที่ต้องอาศัยขนมปังเป็นอาหารหลัก การเก็บเกี่ยวที่ไม่ดีในปีที่ผ่านมาทำให้ราคาวัสดุอุปโภคบริโภคพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ขนมปังซึ่งเป็นสินค้าพื้นฐานกลายเป็นของฟุ่มเฟือยที่เกินเอื้อมสำหรับประชาชนจำนวนมาก

ความหิวโหยกดดันให้ประชาชนลุกฮือขึ้นมา โกรธแค้นและสิ้นหวัง พวกเขาชุมนุมกันหน้าทำเนียบผู้ว่าราชการ และเริ่มทุบต壊 และปล้นสะดมร้านค้าที่ขายขนมปัง

ความไม่พอใจต่อผู้ว่าราชการ:

ความขุ่นเคืองของประชาชนไม่ได้มีสาเหตุมาจากความหิวโหยอย่างเดียวเท่านั้น การก่อจลาจลครั้งนี้ยังสะท้อนถึงความไม่พอใจต่อการบริหารของผู้ว่าราชการ มาริโอ โบโรเนEo ซึ่งถูกมองว่าเป็นคนเห็นแก่ตัวและไม่สนใจความเดือดร้อนของประชาชน

สาเหตุ ค่า
การขาดแคลนอาหาร ข้าวสาลีที่เก็บเกี่ยวได้น้อยลง
ราคาขนมปังสูงขึ้น ขาวยากจน
ความเห็นแก่ตัวของผู้ว่าราชการ นโยบายที่ไม่เหมาะสม

โบโรเนEo ถูกมองว่าเป็นผู้แทนของชนชั้นสูงที่ละเลยความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ เขาถูกวิจารณ์ว่าใช้เงินภาษีเพื่อประโยชน์ส่วนตน และไม่ยอมที่จะช่วยเหลือผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก

การควบคุมสถานการณ์:

เมื่อเหตุการณ์เริ่มเลวร้ายลง ผู้ว่าราชการ โบโรเนEo ก็ส่งทหารมาปราบปรามผู้ประท้วง สถานการณ์ลุกลามเป็นความรุนแรง และมีผู้เสียชีวิตหลายราย ในที่สุด การก่อจลาจลของขนมปังถูก 진압 แต่ก็ทิ้งร่องรอยแห่งความขัดแย้งและความไม่พอใจเอาไว้

ผลสืบเนื่อง:

การก่อจลาจลของขนมปังในปี 1738 เป็นตัวอย่างของความตึงเครียดทางสังคมที่เกิดขึ้นในอิตาลีในศตวรรษที่ 18 เหตุการณ์นี้ทำให้ชัดเจนถึงความแตกต่างระหว่างชนชั้นสูงและประชาชน และแสดงให้เห็นถึงความต้องการการเปลี่ยนแปลง

แม้ว่าการก่อจลาจลครั้งนี้จะถูก 진압 แต่ก็ยังเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดการเคลื่อนไหวทางการเมืองในภายหลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการปฏิวัติฝรั่งเศส

บทเรียนจากอดีต:

การศึกษาเกี่ยวกับเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์เช่น การก่อจลาจลของขนมปังในปี 1738 ช่วยให้เราเข้าใจถึงความซับซ้อนของสังคม และค้นหาคำตอบสำหรับปัญหาที่ยังคงดำรงอยู่ถึงปัจจุบัน เช่น ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ การขาดโอกาส และความไม่เท่าเทียมกัน

นอกจากนี้ การเรียนรู้จากอดีตจะช่วยให้เราสร้างสังคมที่ยุติธรรมและเท่าเทียมกันมากขึ้น โดยการรับรู้ถึงความต้องการของประชาชน และการมุ่งมั่นที่จะสร้างสภาพแวดล้อมที่ทุกคนมีโอกาสก้าวหน้า

TAGS